มันส์ถึงฎีกา! ‘เกปา’พลาดโทษ ลิเวอร์พูล แม่นเป้าดับ เชลซี 11-10 ซิวแชมป์คาราบาวคัพ
เชลซี VS ลิเวอร์พูล 0-0 (จุดโทษ 10-11) | นับเป็นเกมนัดชิงชนะเลิศที่สมศักดิ์ศรีสุดๆ หลัง สิงห์บลูส์ กับ หงส์แดง สู้กันได้อย่างสนุกสุดมันส์จนถึงวินาทีสุดท้ายจริงๆ โดยต่างฝ่ายต่างส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่กลับถูกปฏิเสธ เนื่องจากเป็นจังหวะล้ำหน้า ทำให้จบ 120 นาที ด้วยสกอร์ 0-0 ก่อนที่สุดท้าย เกปา อาร์ริซาบาลาก้า จะสังหารจุดโทษพลาด ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 11-10 คว้าแชมป์ คาราบาว คัพ ไปครอง
ฟุตบอลคาราบาว คัพ 2021/22
เชลซี 0-0 ลิเวอร์พูล
(ลิเวอร์พูล ชนะการดวลจุดโทษ 11-10)
ศึกฟุตบอล คาราบาว คัพ อังกฤษ 2021/22 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี พบกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
เพียงนาทีที่ 6 สิงห์บลูส์ ได้โอกาสทักทายก่อน เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า แทงบอลจากฝั่งขวาของเขตโทษให้ คริสเตียน พูลิซิช ได้ตั้งเท้ายิงเน้นๆ แต่บอลกลับไปติดเซฟของ เคามิน เคลเลเฮอร์
ต่อมา นาที 18 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วางบอลเข้าเขตโทษให้ ซาดิโอ มาเน่ โขกเปลี่ยนทาง แต่บอลยังไม่ตรงกรอบ
นาที 22 เทรนท์ เขี่ยลูกฟรีคิกเปลี่ยนจุดให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดด้วยซ้าย ทว่าบอลก็ปลิ้นหลุดกรอบออกหลังไป
นาที 30 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทอง 2 จังหวะซ้อน นาบี เกอิต้า สับไกตรงหน้าเขตโทษ เอดูอาร์ เมนดี้ พุ่งปัดได้ ก่อนที่ ซาดิโอ มาเน่ จะวิ่งเข้ามายิงซ้ำ ทว่านายทวารเชลซีก็ยังลุกขึ้นมาปัดบอลไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ
ถัดมา นาที 35 ไค ฮาแวร์ตซ์ หลุดเดี่ยวไปยิง บอลติดเซฟของ เคามิน เคลเลเฮอร์ และกลายเป็นจังหวะล้ำหน้าด้วย
นาที 39 ฮาแวร์ตซ์ ไหลบอลให้ คริสเตียน พูลิซิช กดเต็มข้อในเขตโทษ แต่มือกาวหงส์แดงก็ยังเซฟไว้ได้
2 นาทีต่อมา เชลซี เกือบได้ประตูขึ้นนำ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ซัดด้วยซ้ายตรงหน้ากรอบ 18 หลา ทว่าบอลเหินข้ามคานออกไปเพียงนิดเดียว
นาที 45 สิงโตน้ำเงินคราม พลาดโอกาสทองอีกครั้ง คริสเตียน พูลิซิช ไหลบอลไปด้านขวาให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ เมสัน เมาท์ วิ่งทะลุช่องมาวอลเลย์ด้วยขวาเน้นๆ แต่บอลหลุดเสาออกไปเพียงนิดเดียว ทำให้จบครึ่งเวลาแรก ทั้ง 2 ทีม ยังทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์เสมอกันอยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลัง นาที 49 คริสเตียน พูลิซิช วางบอลข้ามแผงหลังหงส์แดงให้ เมสัน เมาท์ หลุดเดี่ยวไปแปเน้นๆ ด้วยขวา บอลผ่าน เคามิน เคลเลเฮอร์ ไปแล้ว แต่พุ่งไปชนเสา ทำให้ เชลซี พลาดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย
นาที 58 ไค ฮาแวร์ตซ์ แตะบอลให้ เมสัน เมาท์ วิ่งมายิงด้วยขวา ทว่า นายด่านลิเวอร์พูล ก็ยังป้องกันไว้ได้
จากนั้น นาที 64 ซาดิโอ มาเน่ แทงบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเดี่ยว ก่อนยกบอลข้ามตัว เอดูอาร์ เมนดี้ ไปแล้ว แต่ ติอาโก้ ซิลวา ยังไปตามสกัดบอลจากเส้นประตูเอาไว้ได้
NO GOAL!! กระทั่ง นาที 67 หงส์แดง ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่ไม่ได้ประตู เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดฟรีคิกไปที่เสาไกล ซาดิโอ มาเน่ โหม่งตั้งไปที่หน้าปากประตูให้ โฌแอล มาติป โขกแบบจ่อๆ เข้าประตูไป แต่ทว่า VAR ชี้ว่า เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ที่ยืนล้ำหน้าอยู่ ขัดขวางการเล่นของ รีซ เจมส์ ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดได้ประตูขึ้นนำ
นาที 75 หลุยส์ ดิอาซ หลุดเข้าเขตโทษไปยิงด้วยซ้าย แต่ เอดูอาร์ เมนดี้ ก็ยังเซฟได้อีก
OFF SIDE!! นาที 78 ติโม แวร์เนอร์ เปิดบอลให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ขึ้นโขกเน้นๆ แบบเผาขน แม้ เคามิน เคลเลเฮอร์ จะปัดได้ แต่บอลยังลอยข้ามเส้นประตูไป ทว่าไลน์แมนยกธงว่า แวร์เนอร์ ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ทำให้ เชลซี ก็ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำเช่นกัน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาที 90+1 เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ขึ้นโหม่งลูกเตะมุมเต็มๆ แต่ มือกาวเชลซี ก็ยังพุ่งปัดไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
นาที 90+5 มาร์กอส อลอนโซ่ ตวัดบอลจากสุดเส้นหลังให้ โรเมลู ลูกากู ตวัดยิงเร็ว ทว่า เคามิน เคลเลเฮอร์ ยังใช้เท้าเซฟไว้ได้อีก
ทำให้จบ 90 นาที ทั้ง 2 ทีม ยังคงเสมอกันที่ 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
OFF SIDE!! นาที 97 เทรโวห์ ชาโลบาห์ แทงบอลให้ โรเมลู ลูกากู หลุดเข้าเขตโทษไปซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งตุงตาข่าย แต่ไลน์แมนก็จับล้ำหน้า ลูกากู ไปอีก ทำให้เชลซียังไม่ได้ประตู
OFF SIDE!! นาที 109 โรเมลู ลูกากู เปิดบอลให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ สับไกในเขตโทษ บอลพุ่งเข้าไปตุงตาข่าย แต่ ฮาแวร์ตซ์ ก็ถูกจับล้ำหน้าไปอีก
ก่อนหมดเวลาเพียงไม่กี่นาที เชลซี ส่ง เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ลงมาเฝ้าเสาแทน เอดูอาร์ เมนดี้ โดยหวังให้มาเซฟประตูในการดวลจุดโทษตัดสิน
หมดเวลา 120 นาที เชลซี เสมอกับ ลิเวอร์พูล 0-0 ทำให้ต้องไปตัดสินด้วยการดวลจุดโทษชี้ขาด โดย ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายยิงก่อน
- 1. เจมส์ มิลเนอร์ : เข้า
- 1. มาร์กอส อลอนโซ่ : เข้า
- 2. ฟาบินโญ่ : เข้า
- 2. โรเมลู ลูกากู : เข้า
- 3. เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค : เข้า
- 3. ไค ฮาแวร์ตซ์ : เข้า
- 4. เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ : เข้า
- 4. รีซ เจมส์ : เข้า
- 5. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : เข้า
- 5. จอร์จินโญ่ : เข้า
- 6. ดิโอโก้ โชต้า : เข้า
- 6. อันโตนิโอ รูดิเกอร์ : เข้า
- 7. ดิว็อค โอริกี้ : เข้า
- 7. เอ็นโกโล่ ก็องเต้ : เข้า
- 8. แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน : เข้า
- 8. ติโม แวร์เนอร์ : เข้า
- 9. ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ : เข้า
- 9. ติอาโก้ ซิลวา : เข้า
- 10. อิบราฮิม่า โกนาเต้ : เข้า
- 10. เทรโวห์ ชาโลบาห์ : เข้า
- 11. เคามิน เคลเลเฮอร์ : เข้า
- 11. เกปา อาร์ริซาบาลาก้า : ไม่เข้า
ทำให้จบเกมการแข่งขัน เป็น ลิเวอร์พูล ที่เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 11-10 หลังเสมอกันใน 120 นาที 0-0 คว้าแชมป์คาราบาว คัพ ที่รอคอยมานาน 10 ปี ไปครองได้สำเร็จ
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม
เชลซี : เอดูอาร์ เมนดี้ (GK), เทรโวห์ ชาโลบาห์, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช, มาร์กอส อลอนโซ่, เมสัน เมาท์, คริสเตียน พูลิซิช, ไค ฮาแวร์ตซ์
ลิเวอร์พูล : เคามิน เคลเลเฮอร์ (GK), เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, นาบี เกอิต้า, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, หลุยส์ ดิอาซ
สนับสนุนข่าวกีฬาโดย โปรแกรมบอลวันนี้.com ด้วยทีมงานคุณภาพ MM88 MM88HOT.COM MM88HOT.NET
แชมป์คาราบาวคัพ แชมป์คาราบาวคัพ แชมป์คาราบาวคัพ แชมป์คาราบาวคัพ