สาลิกาฟัดหงส์แดง! พรีวิวภาพรวม และสถานการณ์ พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 3
ระเบิดความมันส์กันแบบต่อเนื่อง ส่องโปรแกรมการฟาดแข้ง และสถานการณ์ของ ศึกพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 3 ที่จะลงทำศึกกันในสัปดาห์นี้
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 ที่จะฟาดแข้งกันในสัปดาห์นี้ เดินทางมาถึงการแข่งขันนัดที่ 3 โดย 2 นัดที่ผ่านมา มีเพียง 3 ทีมเท่านั้น ที่คว้าชัยได้ทั้ง 2 นัด โดยทีมแชมป์เก่า “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และรองแชมป์เก่าอย่าง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ยังคงรักษามาตรฐานการเล่น สามารถเก็บ 6 แต้มเต็มมาได้สำเร็จ ทว่าทีมที่โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงที่สุดในตอนนี้ กลับกลายเป็น “นกนางนวล” ไบรท์ตัน ที่ไล่พังประตูคู่แข่งแบบถล่มทลาย จนขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงของตาราง
ดังนั้น เรามาไล่ดูโปรแกรมการแข่งขันเกมนัดต่อไป พร้อมส่องสถานการณ์ของแต่ละทีมในลีกไปพร้อมกัน โดยเฉพาะ 3 ทีมบนหัวตาราง ว่าพวกเขาต้องเจอกับงานยากหรือง่าย และมีโอกาสจะคว้าชัยได้แบบต่อเนื่องมากน้อยเพียงใดในสัปดาห์นี้
คืนวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม 2566
- 02.00 น. เชลซี พบ ลูตัน ทาวน์ | พรีวิว : True Premier Football 1 , True Premier Football 2
วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2566
- 18.30 น. บอร์นมัธ พบ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ | พรีวิว : True Premier Football 1 , True Premier Football 2
- 21.00 น. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ | พรีวิว : True Premier Football 1 , True Premier Football 2
- 21.00 น. อาร์เซน่อล พบ ฟูแล่ม | พรีวิว : True Premier Football 3
- 21.00 น. เอฟเวอร์ตัน พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน | พรีวิว : True Premier Football 6
- 21.00 น. เบรนท์ฟอร์ด พบ คริสตัล พาเลซ | พรีวิว : ID Station (894) , True Premier Football 7
- 23.30 น. ไบรท์ตัน พบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด | พรีวิว : True Premier Football 1 , True Premier Football 2
วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม 2566
- 20.00 น. เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ | พรีวิว : True Premier Football 1 , True Premier Football 2
- 20.00 น. เบิร์นลี่ย์ พบ แอสตัน วิลล่า | พรีวิว : ID Station (894) , True Premier Football 8
- 22.30 น. นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล | พรีวิว : True Premier Football 1 , True Premier Football 2 , True 4K (400)
สำหรับสุดสัปดาห์นี้ คอบอล พรี เมียร์ ลีก จะได้รับชมเกมการแข่งขันครบทั้ง 10 คู่ 10 สนาม โดยประเดิมความมันส์กันตั้งแต่คืนวันศุกร์ 1 คู่ ตามด้วยเกมในวันเสาร์ 6 คู่ และปิดท้ายกันในวันอาทิตย์อีก 3 คู่
เกมคู่แรก เป็นการพบกันระหว่าง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมอันดับ 15 ที่ยังไม่ชนะใครและเพิ่งพ่ายแพ้มาในเกมล่าสุด กับทีมน้องใหม่อย่าง “เดอะ แฮตเตอร์ส” ลูตัน ทาวน์ ทีมอันดับ 17 ที่จะลงสนามเป็นนัดที่สอง หลังจากสัปดาห์ก่อนไม่มีโปรแกรมลงเล่น เนื่องจากสนามยังไม่พร้อม โดยเกมนี้เจ้าถิ่นจำเป็นที่จะต้องคว้า 3 แต้มให้ได้สถานเดียว เพื่อเรียกความมั่นใจและดึงโมเมนตัมกลับมา มิเช่นนั้นพวกเขาก็จะต้องตกอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างแน่นอน แต่ สิงห์บลูส์ จะทำได้สำเร็จหรือไม่ ต้องติดตามไปพร้อมกันในคืนวันศุกร์ เวลา 02.00 น.
ถัดมาในวันเสาร์ ออกสตาร์ทกันด้วยเกมในช่วง 18.30 น. “เดอะ เชอร์รี่ส์” บอร์นมัธ ทีมอันดับ 14 ที่เพิ่งบุกไปพ่ายหงส์แดงและยังคงไร้ชัย จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมอันดับ 6 ที่กำลังมั่นใจ หลังเพิ่งปราบผีแดงได้แบบสวยหรู ซึ่งหากพวกเขาคว้าชัยในนัดนี้ได้ ก็จะขยับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงแบบชั่วคราวทันที
จากนั้นในเวลา 21.00 น. จะมีเกมการแข่งขันถึง 4 คู่ แต่ไฮไลท์ที่น่าสนใจ คงหนีไม่พ้นเกมของ 2 ทีมใหญ่ โดย “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งฟอร์มหลุด บุกไปพ่าย สเปอร์ส แบบน่าผิดหวัง จนหล่นมารั้งอันดับ 12 จะกลับมาเปิดโรงละครแห่งความฝันรับมือ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทีมอันดับ 10 ที่เพิ่งเก็บชัยเหนือดาบคู่มาได้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเกมนี้เจ้าบ้านไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้เท่านั้น หากหวังขยับขึ้นไปในกลุ่มบนของตาราง
ขณะที่ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ที่เพิ่งเอาตัวรอด เก็บชัยชนะมาได้แบบสุดหืดจับเหนือ ปราสาทเรือนแก้ว หลังจากต้องเหลือผู้เล่น 10 คน ทำให้ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ในเวลานี้ ยังคงมีคิวทำศึกแห่งศักดิ์ศรี “ลอนดอนดาร์บี้แมตช์” แบบต่อเนื่อง โดยคราวนี้จะกลับมาเปิดรังเหย้าดวลเดือดกับ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ทีมอันดับ 13 ที่เพิ่งแพ้ให้กับผึ้งพิฆาตไปแบบราบคาบ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเกมนี้หากลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เก็บ 3 แต้มได้ ก็จะขึ้นนำเป็นจ่าฝูงแบบชั่วคราวเช่นกัน
ส่วนทางด้านของทีมจ่าฝูงในเวลานี้อย่าง “นกนางนวล” ไบรท์ตัน ที่ฟอร์มแรงสุดขีด หลังไล่ถล่ม ลูตัน ทาวน์ และ วูล์ฟแฮมป์ตัน มาด้วยสกอร์ 4-1 จะเปิดบ้านดวลเดือดกับ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่กำลังคึกคัก หลังเพิ่งเอาชนะ สิงห์บลูส์ ได้สำเร็จ ทัพนกนางนวลจะสามารถรักษาตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปได้อีกสัปดาห์หรือไม่ รอลุ้นไปพร้อมกันในเวลา 23.30 น.
ต่อมาในวันอาทิตย์ เวลา 20.00 น. มีเกมการแข่งขัน 2 คู่ โดยคู่ที่ต้องโฟกัส คงอยู่เกมของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่คว้าชัยมา 2 นัดติด หลังเปิดบ้านเฉือน สาลิกาดง ในเกมที่ผ่านมา ทำให้รั้งรองจ่าฝูง จะบุกไปเยือนทีมน้องใหม่อย่าง “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่แพ้มา 2 นัดรวดต่อ ปราสาทเรือนแก้ว และ เจ้าป่า ซึ่งหากดูกันตามฟอร์มแล้ว คงน่าจะไม่ใช่งานยากของทีมแชมป์เก่าที่จะเก็บชัยชนะได้อีกนัด แต่ทว่าขึ้นชื่อว่าลูกกลมๆ อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน
และปิดท้ายกันด้วยเกมคู่ “บิ๊กแมตช์” ประจำสัปดาห์นี้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งซิวชัยนัดแรก จากการแซงเอาชนะ บอร์นมัธ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มี 4 แต้ม รั้งอันดับ 5 ของตาราง จะบุกไปเยือน “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 8 ที่เพิ่งปราชัยให้กับ เรือใบสีฟ้า เชื่อว่าเกมนี้ ทั้ง 2 ทีม น่าจะเปิดเกมสู้กันแบบไม่มีใครกลัวใคร เพื่อหวังคว้าชัยด้วยกันทั้งคู่ บอกเลยว่างานนี้ดุเดือดเลือดพล่านอย่างแน่นอน แต่สุดท้ายแล้วทีมใดจะเป็นฝ่ายที่สมหวัง แฟนบอลคงต้องรอชมและเชียร์ไปพร้อมกัน ในเวลา 22.30 น.
มาร่วมมันส์สะใจไปกับศึกพรีเมียร์ลีก ทุกคู่ ทุกสนาม พร้อมกันได้ที่ onesteplnw คอบอลตัวจริงห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!
ขอบคุณข้อมูลจาก “เอกกี้รีพอร์ต”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ชัดเจนครบถ้วน! วิธีการดูบอล แพ็กเกจ พรี เมียร์ ลีก 2023/24 ที่ TrueID
- มันส์สะใจกว่าเดิม! พรีเมียร์ลีก 2023/24 ทรูไอดี มีอะไรใหม่ เอาใจคอบอล
- โปรแกรม พรี เมียร์ ลีก 2023/24 ตารางบอล พรี เมียร์ ลีก ลิ้งก์ดูบอลสด
แหล่งรวบรวมไฮไลท์ฟุตบอลต่างประเทศทั้งลีกใหญ่และลีกเล็ก
ขอบคุณผู้สนับสนุน 888hot / @pz88 / 28hot เว็บออนไลน์อันดับ1ของประเทศ
ขอบคุณแหล่งข้อมูล truevisions / beIN SPORTS Thailand / Siamsport / cheerball / Bundesliga